ข้อมูลองค์ความรู้เรื่องราวตำนานเสือรอยเบี้ยว

เสือรอยเบี้ยว

คำให้การของผู้เชี่ยวชาญคนที่ ๑


ตำบลน้ำขาวก่อนยุคสมัยปี พ.ศ.๒๕๐๐ มีสภาพพื้นที่ทางด้านกายภาพเป็นป่าเขา หนาทึบ พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของชุมชนอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่ม และอยู่รวมกันเป็นกระจุกตามลักษณะความสัมพันธ์ทางเครือญาติ บริเวณที่เป็นที่ตั้งบ้านเรือนเก่าแก่มานับตั้งแต่สมัย โบราณ คือ บ้านออกวัด บ้านเกาะแค บ้านต้นเหรียง บ้านคูหัวนอน บ้านน้ำขาว บ้านคูตีน เป็นต้น วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนน้ำขาว คือ ทำนา ซึ่งทำกันอยู่ใกล้ ๆ กับชุมชนที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นที่ลุ่ม กับทำสวนยางซึ่งต้องเดินทางเข้าไปบุกเบิกหักร้างพื้นที่ป่าซึ่งเป็นที่ราบสูงแถวผืนป่า ควนธง ควนกรอง บ้านหัวควน แรก ๆ เข้าไปหักร้างทำไร่ ปลูกข้าว ข้าวโพด ผัก มัน และปลูกยางพารา ในการเดินทางเข้าไปทำสวน ทำไร่

มีเรื่องเล่าลือที่เป็นที่โจษขานกันมาปากต่อปากแต่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ คือเรื่องของ “เสือรอยเบี้ยว” เรื่องราวเกี่ยวกับเสือรอยเบี้ยวที่เป็นที่น่าสะพรึงกลัวและถูกเล่าขานกันมาเรื่อยๆ จนเด็ก ๆ ใน ต.น้ำขาวรุ่นหลังปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้นำมาประยุกต์เป็นการละเล่นพื้นบ้านเกี่ยวกับ เรื่องการเข้าป่าแล้วไปเจอเสือ ใครไม่ระมัดระวังก็จะโดนเสือกัดกิน ในขณะที่เข้าป่าก็จะท่องคำคล้องจองไปด้วยอย่างสนุกสนาน “ขุด ขุดหัวมัน เสือยิกทัน หัวมันขาดท่อน” ซ้ำ ๆ กันจนวิ่งหนีกลับข้าไปสู่แดนที่ปลอดภัยได้สำเร็จ ใครวิ่งหนีไม่ทัน โดนเสือจับได้จะกลายเป็นผู้แพ้ ต้องจัดให้เป็นฝ่ายเสือในเกมถัดไป...

ตามคำบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องเสือรอยเบี้ยว มีผู้ให้ปากคำตรงกันเกี่ยวกับชื่อของบุคคลที่เคยโดนเสือรอยเบี้ยวกัดกินเป็นอาหารในขณะที่ไปบุกเบิกทำสวนยาง ทำไร่ ในละแวกนั้น ดังนี้

๑.ตรงบริเวณพื้นที่ควนกรอง ควนธงในปัจจุบัน นางเอียด ทองเพชรจันทร์ กับสามีไปบุกเบิกทำไร่ ช่วงพักเที่ยงสามีเกิดอยากกินแกงเลียง จึงอาสาไปหาผักโดนเสือรอยเบี้ยวคาบพาไปกินตรงบริเวณต้นไก่เขียวปัจจุบัน สามีตามไปพบอวัยวะทีละชิ้น ๆ

๒.นายเคี่ยม ไม่ทราบนามสกุล ออกไปถางป่าทำไร่เช่นเดียวกันที่บริเวณแถว ๆ บ้านทุ่งไก่ปิ้ง บ้านคลองหาร เสือรอยเบี้ยวคาบพาไปกิน ถูกแยกชิ้นส่วนของร่างกายออกเป็นชิ้น ๆ ญาติต้องนำศพใส่กระสอบพากลับมาวางไว้ที่ศาลาบ้านคูตีน หมู่ที่ ๒ ต.น้ำขาว เพราะชาวบ้านมีความเชื่อว่าศพที่โดนเสือกัดกินห้ามนำกลับบ้าน

๓.นางลาบ แห่งบ้านออกวัด หมู่ที่ ๓ ต.น้ำขาว ถูกเสือรอยเบี้ยวขโมยวัว แล้วลากพาไปกินที่บ้านทุ่งนาเคียน ต.ขุนตัดหวาย บางครั้งพื้นที่หากินของเสือรอยเบี้ยวขยายพื้นที่หากินไปไกลถึง บ้านปลักชะเมา อ.นาทวี

๔.น้องของครูเนี่ยม บ้านช้างคลอด ต.ท่าหมอไทร ถูกเสือรอยเบี้ยวกัดกินเป็นอาหารอีกคนหนึ่งด้วย

๕.เสือรอยเบี้ยวเวลากัดกินคน หรือสัตว์ มันชอบกัดกินที่ท้อง อวัยวะส่วนอื่นมักจะทิ้งเอาไว้ให้ญาติหรือเจ้าของ นำกลับเอาไปเป็นหลักฐานเสมอ

๖.จุดจบของเสือรอยเบี้ยวถูกหมอเนียม(พ่อเฒ่าของอาจารย์ถาวร เกื้อนุ้ย) ยิงตายในขณะที่กำลังเข้าไปขโมยวัวชาวบ้านกิน ที่บ้านนาปรือ ต.คู จากคำบอกเล่าขณะที่มันถูกยิงตาย ด้วยความเป็นเสือไม่ทิ้งลาย มันยังยืนตาย จนคนยิงต้องใช้ไม้แทงให้ล้มถึงได้รู้ว่ามันตายสนิทแล้ว ทางราชการให้รางวัลแก่หมอเนียมเป็น ปืนลูกซองแฝดยาว ๑ กระบอก

๗.ผู้สัมภาษณ์ได้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประวัติหมอเนียมและประวัติของปืนลูกซองดังกล่าว จากอาจารย์วินิจ ขวัญทองชุม บ้านนาปรือ ต.คู อ.จะนะ ปรากฏว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มีการเล่าสืบทอดกันมาตรงกัน อาจารย์วินิจ ขวัญทองชุม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากหมอเนียมได้รับปืนลูกซองจากทางราชการมาแล้ว ถูกโจรปล้นและถูกยิงตาย ปืนดังกล่าวก็ถูกกโจรเอาไปด้วย เหลือแต่หลักฐานที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ผู้เล่าเองก็เคยเห็น.



ข้อมูลผู้ให้สัมภาษณ์

ชื่อ: นายเพิ่ม ศรีมณี
ที่อยู่: บ้านออกวัด หมู่ที่ ๓ ต.น้ำขาว อ.จะนะ จ.สงขลา
การศึกษา: -
อาชีพ: ทำสวนยาง
สถานภาพ: เสียชีวิต
ชาติพันธุ์: ไทย
ภาษา: ไทย (ไทยท้องถิ่นใต้)
วันที่ให้สัมภาษณ์: วันที่ ๑๓ เดือนมีนาคม ๒๕๕๑